การอ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
Quote from paen on September 20, 2025, 2:02 amปัญหาเกี่ยวกับเกาะกูดในจังหวัดตราดมีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์และอธิปไตยของไทย โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (Overlapping Claims Area - OCA)
- เกิดจากการอ้างสิทธิ์ไหล่ทวีปของไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร
- เส้นแบ่งผลประโยชน์ที่กัมพูชาลากผ่านนั้นพาดผ่านกลางเกาะกูด ทำให้เกิดข้อกังวลว่าไทยอาจเสียดินแดน
MOU 2544 (บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา)
- เป็นข้อตกลงเพื่อเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรใต้ทะเลร่วมกัน เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
- มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยอาจยอมรับเส้นแบ่งที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยเหนือเกาะกูด
ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน
- ปัญหานี้เรื้อรังมากว่า 50 ปี โดยมีการอ้างอิงถึงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล
- หลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นในการลากเส้นเขตแดน ถูกใช้โดยทั้งสองฝ่ายในการอ้างสิทธิ์ แต่มีข้อขัดแย้งในวิธีการตีความและการลากเส้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- การเจรจาล่าช้าอาจทำให้ไทยเสียโอกาสในการใช้ทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ทับซ้อน
- ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศเกี่ยวกับการดำเนินการตาม MOU 2544 อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
(ภาพจาก : สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา)
ปัญหาเกี่ยวกับเกาะกูดในจังหวัดตราดมีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์และอธิปไตยของไทย โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (Overlapping Claims Area - OCA)
- เกิดจากการอ้างสิทธิ์ไหล่ทวีปของไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร
- เส้นแบ่งผลประโยชน์ที่กัมพูชาลากผ่านนั้นพาดผ่านกลางเกาะกูด ทำให้เกิดข้อกังวลว่าไทยอาจเสียดินแดน
MOU 2544 (บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา)
- เป็นข้อตกลงเพื่อเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรใต้ทะเลร่วมกัน เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
- มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยอาจยอมรับเส้นแบ่งที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยเหนือเกาะกูด
ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน
- ปัญหานี้เรื้อรังมากว่า 50 ปี โดยมีการอ้างอิงถึงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล
- หลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นในการลากเส้นเขตแดน ถูกใช้โดยทั้งสองฝ่ายในการอ้างสิทธิ์ แต่มีข้อขัดแย้งในวิธีการตีความและการลากเส้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- การเจรจาล่าช้าอาจทำให้ไทยเสียโอกาสในการใช้ทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ทับซ้อน
- ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศเกี่ยวกับการดำเนินการตาม MOU 2544 อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
(ภาพจาก : สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา)
Quote from paen on September 20, 2025, 2:06 amวิธีการลากเส้นของกัมพูชา
- ลากเส้นจากชายฝั่งของตนออกไป 200 ไมล์ทะเล โดยอ้างสิทธิ์ตามหลักไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS 1982)
- เส้นที่กัมพูชาลาก ไม่ใช้เส้นมัธยะ (median line) ซึ่งเป็นหลักสากลที่ใช้แบ่งเขตทะเลระหว่างประเทศที่มีชายฝั่งใกล้กัน เช่น ไทยกับกัมพูชา
- กัมพูชาลากเส้น จากชายฝั่งของตนไปในทิศทางที่ตัดผ่านพื้นที่ทะเลของไทย โดยเฉพาะบริเวณรอบเกาะกูด ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีการตกลงร่วมกัน
ข้อวิพากษ์ทางกฎหมาย
- การลากเส้นของกัมพูชา ขัดต่อหลักการเจรจาระหว่างประเทศคู่กรณี ที่ระบุไว้ใน UNCLOS ว่าการแบ่งเขตทะเลต้องเป็นผลจากการตกลงร่วมกัน ไม่สามารถกำหนดฝ่ายเดียวได้
- นักวิชาการไทยชี้ว่า การลากเส้นของกัมพูชา เป็นการอ้างสิทธิ์ที่เกินขอบเขต และอาจนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยของไทยในพื้นที่ทะเลบางส่วน
จุดเริ่มต้นของข้อพิพาท
- กัมพูชาเริ่มประกาศเขตไหล่ทวีปของตนในปี พ.ศ. 2515 โดยไม่ปรึกษาไทย ทำให้เกิดข้อพิพาทตั้งแต่นั้นมา
- จุดหลักที่ใช้ในการอ้างสิทธิ์คือ หลักเขตที่ 73 ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะกูดของไทยและเกาะกงของกัมพูชา แต่การตีความและการลากเส้นจากจุดนี้ยังมีความขัดแย้ง
ความเห็นส่วนตัว
การลากเส้นแบ่งเขตของกัมพูชาไม่เป็นไปตามหลักกฏหมาย ถ้าเราลองลากเส้นแบบเดียวกันในฝั่งไทยออกไป 200 ไมล์ ชิดแดนฝั่งเขมรและชิดชายฝั่งกัมพูชาเลย กัมพูชาจะว่าอย่างไร ลากให้กัมพูชาดูในแบบเดียวกัน
วิธีการลากเส้นของกัมพูชา
- ลากเส้นจากชายฝั่งของตนออกไป 200 ไมล์ทะเล โดยอ้างสิทธิ์ตามหลักไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS 1982)
- เส้นที่กัมพูชาลาก ไม่ใช้เส้นมัธยะ (median line) ซึ่งเป็นหลักสากลที่ใช้แบ่งเขตทะเลระหว่างประเทศที่มีชายฝั่งใกล้กัน เช่น ไทยกับกัมพูชา
- กัมพูชาลากเส้น จากชายฝั่งของตนไปในทิศทางที่ตัดผ่านพื้นที่ทะเลของไทย โดยเฉพาะบริเวณรอบเกาะกูด ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีการตกลงร่วมกัน
ข้อวิพากษ์ทางกฎหมาย
- การลากเส้นของกัมพูชา ขัดต่อหลักการเจรจาระหว่างประเทศคู่กรณี ที่ระบุไว้ใน UNCLOS ว่าการแบ่งเขตทะเลต้องเป็นผลจากการตกลงร่วมกัน ไม่สามารถกำหนดฝ่ายเดียวได้
- นักวิชาการไทยชี้ว่า การลากเส้นของกัมพูชา เป็นการอ้างสิทธิ์ที่เกินขอบเขต และอาจนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยของไทยในพื้นที่ทะเลบางส่วน
จุดเริ่มต้นของข้อพิพาท
- กัมพูชาเริ่มประกาศเขตไหล่ทวีปของตนในปี พ.ศ. 2515 โดยไม่ปรึกษาไทย ทำให้เกิดข้อพิพาทตั้งแต่นั้นมา
- จุดหลักที่ใช้ในการอ้างสิทธิ์คือ หลักเขตที่ 73 ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะกูดของไทยและเกาะกงของกัมพูชา แต่การตีความและการลากเส้นจากจุดนี้ยังมีความขัดแย้ง
ความเห็นส่วนตัว
การลากเส้นแบ่งเขตของกัมพูชาไม่เป็นไปตามหลักกฏหมาย ถ้าเราลองลากเส้นแบบเดียวกันในฝั่งไทยออกไป 200 ไมล์ ชิดแดนฝั่งเขมรและชิดชายฝั่งกัมพูชาเลย กัมพูชาจะว่าอย่างไร ลากให้กัมพูชาดูในแบบเดียวกัน