Please or Register to create posts and topics.

ปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา

เขตแดนระหว่าง ไทย-กัมพูชา มีความยาวทางบกประมาณ 798 กิโลเมตร อาศัยแนวตามธรรมชาติ เช่น เทือกเขาพนมดงรัก เทือกเขาบรรทัด และแม่น้ำลำคลองเป็นหลักในการแบ่งเขต มีจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนหลายแห่งใน 7 จังหวัดของไทยที่ติดกับกัมพูชา ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด 

ในการปักปันเขตแดน ไทย-กัมพูชามีที่มาจากการตกลงกันระหว่างไทย (สยามในอดีต) และฝรั่งเศส โดยมีการจัดทำเอกสารทางกฎหมายและแผนที่เพื่อกำหนดแนวเขตแดนที่ชัดเจน โดยแบ่งลักษณะของแนวเขตแดนออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • แนวเขตที่อิงตาม สันปันน้ำ ยาวประมาณ 524 กิโลเมตร
  • แนวเขตที่อิงตาม ลำน้ำ ยาวประมาณ 216 กิโลเมตร
  • แนวเขตที่เป็น เส้นตรงระหว่างหลักเขตแดน ยาวประมาณ 58 กิโลเมตร

แนวเขตแดนนี้มีที่มาจากการตกลงกันระหว่าง สยามและฝรั่งเศส โดยมีการจัดทำหลักฐานสำคัญทางกฎหมาย ได้แก่

  • อนุสัญญา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1904
  • สนธิสัญญา วันที่ 23 มีนาคม ค.ศ.1907
การปักหลักเขตแดนในพื้นที่
  • ช่วงปี ค.ศ. 1908–1909 เริ่ม ปักหลักเขตแดนจริงในภูมิประเทศ โดยใช้ต้นไม้หรือเสาไม้
  • ในปี ค.ศ. 1919–1920 เปลี่ยนเป็น หลักคอนกรีต

ลักษณะของหลักเขตแดน

  • จุดเริ่มต้น หลักเขตแดนที่ 1 บริเวณ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
  • จุดสิ้นสุด หลักเขตแดนที่ 73 อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
รวมหลักทั้งหมด 74 หลัก โดยจัดวางตามลักษณะภูมิประเทศ ได้แก่
  • ตามสันปันน้ำ 34 หลัก
  • ตามแนวลำน้ำ 19 หลัก
  • เป็นเส้นตรงระหว่างหลักต่อหลัก 21 หลัก
  • บวกหลักย่อย 22B 1 หลัก
หมายเหตุ พื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ไม่มีการปักหลักเขต เนื่องจากอยู่ในขอบเขตการปักปันชุดแรกที่ได้ดำเนินการแล้ว โดยใช้แนวสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดน
ความจำเป็นในการสำรวจใหม่ และในปัจจุบัน หลักเขตแดนเดิมบางส่วน สูญหาย ถูกทำลาย หรือถูกเคลื่อนย้าย อีกทั้งตั้งอยู่ห่างกันมาก ทำให้บางพื้นที่ไม่มีความชัดเจน
(ข้อมูลจาก กองทัพบก)
(ภาพจาก : กองทัพบก)