ผ่อนบ้านแรกกับผ่อนบ้านหลังที่สอง ต่างกันอย่างไร?

เริ่มโดย nenechan, พ.ย. 26, 2024, 04:43 PM

« หน้าที่แล้ว - ต่อไป »

nenechan


เมื่อคุณตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกแล้ว คุณอาจคิดถึงการขยายครอบครัวหรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต หากการซื้อบ้านหลังที่สองเป็นเรื่องที่คุณกำลังวางแผนอยู่ คงมีคำถามที่หลายคนสงสัยว่า "ผ่อนบ้านหลังที่สองต่างจากบ้านหลังแรกยังไง?" และ "ข้อกำหนดการขอสินเชื่อจะมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง?" ในบทความนี้เราจะพามาดูข้อแตกต่างระหว่างการผ่อนบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สอง ทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย, เงินดาวน์ และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ


1. อัตราดอกเบี้ย: บ้านหลังแรก vs บ้านหลังที่สอง
หนึ่งในข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการซื้อบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สองคือ อัตราดอกเบี้ย ธนาคารมักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำสำหรับการซื้อบ้านหลังแรก เนื่องจากพวกเขามองว่าการขอสินเชื่อบ้านหลังแรกนั้นมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เพราะผู้กู้ยังไม่มีภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับมากนัก
ในขณะที่การขอสินเชื่อสำหรับ บ้านหลังที่สอง อาจจะเจอกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบ้านหลังแรก เนื่องจากธนาคารจะคำนึงถึง ความเสี่ยงจากภาระหนี้สินที่มีอยู่ โดยเฉพาะหากคุณยังมีการผ่อนบ้านหลังแรกอยู่ ทำให้ธนาคารอาจจะคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต

แม้ว่าบ้านหลังที่สองอาจมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ก็ยังมีวิธีในการลดดอกเบี้ยได้ เช่น การเลือก สินเชื่อบ้านระยะยาว หรือการรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงได้ในภายหลัง

2. เงินดาวน์: การจ่ายในบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สอง
เมื่อซื้อ บ้านหลังแรก ธนาคารมักจะขอเงินดาวน์ประมาณ 10-20% ของมูลค่าบ้าน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารและประวัติการเงินของผู้กู้ หากคุณมีเครดิตดีหรือมีรายได้ที่มั่นคง การจ่ายเงินดาวน์ในอัตรานี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป
สำหรับ บ้านหลังที่สอง คุณจะต้องเตรียมเงินดาวน์ที่ สูงกว่ามาก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 20-30% ของมูลค่าบ้าน เนื่องจากธนาคารจะเห็นว่าผู้กู้มีภาระหนี้สินอยู่แล้วจากการผ่อนบ้านหลังแรก ดังนั้น ธนาคารจึงต้องการหลักประกันที่สูงขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินจำนวนมากขึ้น
การจ่ายเงินดาวน์ที่สูงขึ้นนี้อาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน แต่ก็สามารถช่วยลดภาระการผ่อนชำระในระยะยาวได้ เนื่องจากจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น

3. การพิจารณาสินเชื่อ: ความยากง่ายในการอนุมัติ
สำหรับการขอสินเชื่อ บ้านหลังแรก ธนาคารมักจะอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายกว่า เพราะธนาคารจะพิจารณาผู้กู้จากรายได้, ความสามารถในการชำระหนี้, และประวัติการเงินที่ดี การซื้อบ้านหลังแรกถือเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับหลายคน ธนาคารจึงมองว่าโอกาสในการชำระหนี้ในระยะยาวนั้นมีสูง
แต่สำหรับ บ้านหลังที่สอง ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากทั้งบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สอง หากผู้กู้ยังมีภาระหนี้จากบ้านหลังแรกที่ยังไม่หมด ธนาคารอาจจะมองว่าความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้มีสูงขึ้น ดังนั้นการขอสินเชื่อบ้านหลังที่สองอาจจะต้องมีการวางแผนการเงินที่รอบคอบมากขึ้น หรืออาจต้องการให้คุณชำระหนี้จากบ้านหลังแรกให้หมดบางส่วนก่อน

4. ระยะเวลาผ่อนชำระ: ผ่อนระยะยาวกับระยะสั้น
ในกรณีของ บ้านหลังแรก ผู้กู้สามารถเลือกผ่อนชำระในระยะยาวได้ถึง 30 ปี ซึ่งจะช่วยให้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือนลดลง ทำให้การผ่อนบ้านในแต่ละเดือนเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น
บ้านหลังที่สอง อาจจะต้องการการผ่อนที่สั้นลง เพื่อให้การชำระหนี้มีระยะเวลาไม่เกิน 20-25 ปี เพื่อให้การผ่อนบ้านหลังที่สองไม่กลายเป็นภาระที่หนักเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้นและลดดอกเบี้ยในระยะยาว
การเลือกระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสภาพการเงินของคุณและแผนการทางการเงินที่วางไว้ เพื่อไม่ให้ภาระหนี้มีผลกระทบต่อคุณในระยะยาว

5. การวางแผนการเงินสำหรับบ้านหลังที่สอง
การซื้อ บ้านหลังที่สอง ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงราคาและระยะเวลาในการผ่อน แต่ยังต้องพิจารณาถึงการวางแผนการเงินระยะยาวให้ดี เนื่องจากการซื้อบ้านหลังที่สองจะต้องมีการจัดการภาระหนี้จากทั้งบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สอง ดังนั้นการประเมินความสามารถในการชำระหนี้และการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

คุณอาจต้องทำการรีไฟแนนซ์บ้านหลังแรก หรือพิจารณาหมุนเวียนเงินทุนจากแหล่งอื่น เช่น เงินเก็บออม หรือเงินลงทุน เพื่อให้การผ่อนบ้านหลังที่สองเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้อย่างไม่ลำบาก
การผ่อนบ้านหลังแรกและบ้านหลังที่สอง มีความแตกต่างในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย, เงินดาวน์, ข้อกำหนดในการอนุมัติสินเชื่อ และระยะเวลาผ่อนชำระ ซึ่งการทำความเข้าใจในข้อแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า บ้านหลังที่สอง ควรเลือกสินเชื่อประเภทไหนและมีวิธีการบริหารการเงินอย่างไร

หากคุณกำลังคิดจะซื้อบ้านหลังที่สอง อย่าลืมพิจารณาเรื่องการจัดการเงินดาวน์และการเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมให้รอบคอบ เพื่อให้การผ่อนบ้านหลังที่สองของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่สร้างภาระหนี้เกินไปในอนาคต