ความเป็นมาของโครงการ
ช่วงก่อนที่จะมีเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ทร. ได้เล็งเห้นถึงความจำเป็นของการเตรียมการเรื่องท่าเรือ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการมีเรือขนาดใหญ่ในอนาคต จึงได้มีการปรับปรุงท่าเรือที่ฐานทัพเรือสัตหีบ รวมทั้งขยายท่าเทียบเรือสัตหีบให้มากขึ้น ส่งผลให้ พื้นที่จอดเรือภายในอ่าวมีความแออัด คับแคบ เป็นอุปสรรคต่อการนำเรือเข้าเทียบ โดยเฉพาะเรือขนาดใหญ่ หากไม่ใช้เรือลากจูงช่วยการเข้าเทียบ จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะหากมีเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เข้าประจำการ จำเป็นที่จะต้องใช้เรือลากจูงถึง 2 ลำ ช่วยการดันหรือจูง ซึ่งในยุคนั้น ยังขาดแคลนเรือลากจูงอยู่มาก ทำให้มีความต้องจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 2 ลำ โดยครั้งแรกจะจัดหาประเภทเรือ coastal and harbour tug boat ซึ่งมีขีดความสามารถจูงเรือนอกชายฝั่งได้ด้วย แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นประเภท harbour tug boat เท่านั้น จึงจะสามารถต่อ 2 ลำตามที่ต้องการได้ ต่อมา ทร. ได้รับอนุมัติให้ทำการต่อเรือ โดยซื้อแบบและวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศในลักษณะ package deal มีบริษัทโอ๊คเวล คอร์เปอเรชั่น ไทยแลนด์ จำกัด และ เสรีสรรพกิจ จำกัด เป็นตัวกลางในการจัดหาวัสดุ ซึ่งดำเนินการต่อโดยกรมอู่ทหารเรือ นับว่าเรือทั้งสองลำมีความสำคัญมาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในภารกิจ ดับเพลิง ช่วยเหลือเรือที่ขัดข้องกลางทะเลได้อีกด้วย
คุณลักษณะของเรือ
- ทั่วไป
- หมายเลข 855
- วางกระดูกงู 5 มี.ค.2536
- ปล่อยเรือลงน้ำ 23 ก.ย. 2536
- ขึ้นระวางประจำการ 22 ก.ย. 2537
- ผู้สร้าง กรมอู่ทหารเรือ
- คุณลักษณะทั่วไป
- ความยาวตลอดลำ 25.0 เมตร
- ความกว้าง 8.50 เมตร
- กินน้ำลึก 4.60 เมตร
- ระวางขับน้ำ ปกติ 328 ตัน เด็มที่ 385 ตัน
- ความเร็วมัธยัสถ์ 8 นอต
- ความเร็วสูงสุด 10 นอต
- ระยะปฏิบัติการไกลสุด 2,598 ไมล์ ที่ 8 นอต
- กำลังดัน 18 ตัน
- กำลังพลประจำเรือ 22 นาย
- ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
- เครื่องจักรใหญ่ดีเซล Caterpillar MOD 3512 กำลัง 900 แรงม้า 2 เครื่อง
- เครื่องไฟฟ้า Caterpillar MOD3304T จำนวน 2 เครื่อง
- เพลาใบจักร 2 เพลา
- เรือในชุดเดียวกัน
- เรือหลวงแสมสาร
- เรือหลวงแรด
แหล่งอ้างอิง
- http://thaiarmedforce.com
- สมรภูมิ ฉบับ 730 วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2538