ความเป็นมาของโครงการ
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐได้มีการดัดแปลงเรือไม้และเรือเหล็กที่ใช้สำหรับปราบเรือดำน้ำ (submarine chaser) เป็นเรือยนต์ปืน (motor gunboat) เพื่อใช้ปฏิบัติงานร่วมกับเรือตรวจการณ์ โดยมีการเพิ่มเติมอาวุธปืนลงไป อย่างไรก็ตาม การดัดแปลงดังกล่าว ทำให้ความเร็วเรือลดลง แต่ก็ยังสามารถนำไปใช้งานในด้านการกวาดทุ่นระเบิดได้ดี ซึ่งต่อมา ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้มีการส่งมอบเรือที่ต่อโดยใช้รูปแบบดังกล่าวให้ ทร. ตามข้อตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐอเมริกา จำนวน 10 ลำ ได้แก่ PGM-71(ต.11) PGM-79(ต.12) PGM-107(ต.13) PGM-113(ต.14) PGM-114(ต.15) PGM-115(ต.16) PGM-116(ต.17) PGM-117(ต.18) PGM-123(ต.19) และ PGM-124(ต.110) ภายหลังปลดประจำการ ได้ถูกนำมาวางใต้ท้องทะเล เพื่อสร้างปะการังเทียม บริเวณเกาะคุ้ม จังหวัดตราด
คุณลักษณะของเรือ
- ทั่วไป
- หมายเลข 11
- ปล่อยเรือลงน้ำ 14 ก.ย. 2507
- ส่งมอบให้ไทย 5 พ.ค. 2508
- ขึ้นระวางประจำการ 1 ก.พ. 2509
- ปลดประจำการ 1 ต.ค. 2554
- ผู้สร้าง บริษัท Peterson Builders ประเทศสหรัฐอเมริกา
- คุณลักษณะทั่วไป
- ความยาวตลอดลำ 30.30 เมตร
- ความกว้าง 6.40 เมตร
- กินน้ำลึก 1.70 เมตร
- ความเร็วสูงสุด 18 นอต
- ระวางขับน้ำสูงสุด 146 ตัน
- ระยะปฏิบัติการไกลสุด 1,411 ไมล์ ที่ 15 นอต
- กำลังพลประจำเรือ 30 นาย
- ระบบตรวจการณ์
- เรดาร์เดินเรือ Furuno
- ระบบอาวุธ
- ปืนใหญ่กล Bofors M3 ขนาด 40 มม. แท่นเดี่ยว 1 แท่น
- ปืนใหญ่กล Oerlikon GAM-CO1 ขนาด 20 มม. แท่นเดี่ยว 1 แท่น
- ปืนกล .50 นิ้ว จำนวน 2 แท่น
- เครื่องยิงลูกระเบิด Mk 81 mod 2 ขนาด 81 มม. แท่นเดี่ยว 1 แท่น
- ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
- เครื่องจักรใหญ่ดีเซล Detroit Diesel 6-71 จำนวน 2 เครื่อง
- เพลาใบจักร 2 เพลา
- เรือในชุดเดียวกัน
แหล่งอ้างอิง
- กองเรือยามฝั่ง
- http://www.thaiarmedforce.com/
- http://www.navsource.org
- https://km.dmcr.go.th