Category: Uncategorized

พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541

⇧ กฏหมายทางทะเล

เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2515 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน บทบัญญัติบางประการ จึงไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันประกอบกับข้อกำหนดเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานที่ออกตามประกาศของ คณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวอยู่ในรูปของประกาศกระทรวง อันมีฐานะเป็นกฎหมายลำดับรอง จึงมีปัญหาในเรื่องการยอมรับ ดังนั้น เพื่อให้การใช้แรงงานเป็นไปอย่างเป็นธรรม และเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป สมควรปรับปรุงบทบัญญัติต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้แรงงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น การให้อำนาจแก่รัฐมนตรี ในการออกกฎกระทรวงเพื่อให้ความคุ้มครองแก่การใช้แรงงานบางประเภทเป็นพิเศษกว่าการใช้แรงงานทั่วไป การห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงเพราะเหตุมีครรภ์ การให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กมีสิทธิลาเพื่อศึกษาอบรม การให้นายจ้างจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ของลูกจ้างในกรณีที่นายจ้างหยุดประกอบกิจการ การกำหนดเงื่อนไขในการนำหนี้บางประเภทมาหักจากค่าตอบแทน การทำงานของลูกจ้าง การจัดตั้งกองทุนเพื่อสงเคราะห์ลูกจ้างหรือบุคคล ซึ่งลูกจ้างระบุให้ได้รับประโยชน์หรือในกรณีที่มิได้ระบุ ให้ทายาทได้รับประโยชน์จากกองทุนเพื่อสงเคราะห์ลูกจ้างของลูกจ้างที่ถึงแก่ความตาย ตลอดจนปรับปรุงอัตราโทษให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551
  • พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551
  • พระราชกฤษฎีกาแก้ไขให้สอดคล้องกับการโอนอํานาจหน้าที่ของส่วนราชการ พ.ศ. 2551
  • พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2553
  • พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2560
  • คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2560
  • พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2560

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน 2528

⇧ กฏหมายทางทะเล

เนื่องจากปัจจุบันนี้ได้มีผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานโดยส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศเป็นจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหานานาประการ เช่น มีการโฆษณาหลอกลวงคนหางานให้ไปสมัครงานโดยไม่มีงานให้ทำ เรียกค่าบริการและค่าใช้จ่ายเกินสมควร คนหางานที่เดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้งานตามที่ตกลงกันไว้ นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง คนงานหญิงถูกนายจ้างหรือญาติของนายจ้างลวนลาม ข่มขืน ถูกทอดทิ้งในต่างประเทศได้รับความทุกข์ยาก นานาประการ คนหางานที่มีปัญหาเหล่านี้มักจะหลบหนีไปอยู่ที่สำนักงานแรงงานไทยหรือสถานทูตไทย ทำให้เกิดปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย อาหาร และค่าพาหนะเดินทางกลับประเทศไทย ผู้จัดหางานส่วนมากก็อ้างว่าไม่มีเงินช่วยเหลือคนหางานดังกล่าว และจะเรียกเงินจากผู้ซึ่งค้ำประกันคนหางานในการขอหนังสือเดินทางก็กระทำได้ยาก เพราะติดตามหาตัวผู้ค้ำประกันไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีคนหางานบางรายซึ่งไปกระทำความผิดอาญาในต่างประเทศอีกทำให้ทางราชการต้องเข้าไปช่วยเหลือ และตกเป็นภาระหนักแก่งบประมาณของประเทศเพราะมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ไม่สามารถให้ความคุ้มครองคนหางานในต่างประเทศได้ ในการนี้สมควรปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว โดยรีบด่วน โดยกำหนดมาตรการควบคุมการจัดหางานให้รัดกุมยิ่งขึ้น แยกการควบคุมการจัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก จัดให้มีกองทุนสำหรับช่วยเหลือคนงานไทยในต่างประเทศขึ้นโดยเฉพาะ รวมทั้งปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537
  • พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2544
  • พระราชกฤษฎีกาแก้ไขให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545
  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535

⇧ กฏหมายทางทะเล

เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน มาตรการต่าง ๆ ที่มีอยู่ในกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถทำให้การสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลสมดังวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ประกอบกับจำเป็นจะต้องเร่งรัดการขยายพันธุ์สัตว์ป่าและให้การสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าควบคู่กันไป และเนื่องจากปัจจุบันได้มีความตกลงระหว่างประเทศในการที่จะร่วมมือกัน เพื่อสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าของท้องถิ่นอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญของโลก  ดังนั้น เพื่อปรับปรุงให้มาตรการในการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศ สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วย การสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเสียใหม่  จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2546
  • พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2557

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ 2545

⇧ กฏหมายทางทะเล

เนื่องจากพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ได้กำหนดให้กรมป่าไม้เป็นส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหาการบริหาร ทั้งในด้านนโยบาย วิชาการ บุคลากร และการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งเป็นเหตุให้ระบบการบริหารงานและการบังคับใช้กฎหมายขาดประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการบูรณาการตามกลุ่มภารกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและนโยบายของรัฐบาล สมควรโอนกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมทั้งบรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้ สิทธิ ภาระผูกพัน ข้าราชการ ลูกจ้าง ตำแหน่งและอัตรากำลัง ไปเป็นกรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมควรที่จะได้ปรับปรุงอำนาจหน้าที่และกิจการของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งโอนอำนาจหน้าที่และกิจการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ไปเป็นของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีขอบเขตที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน นอกจากนี้ สมควรแก้ไขการใช้อำนาจของรัฐมนตรีและการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้สอดคล้องกับการดำเนินการดังกล่าวด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชกฤษฎีกาโอนกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2546

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507

⇧ กฏหมายทางทะเล

เนื่องจากป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญยิ่งของชาติ และรัฐบาลได้กำหนดจุดหมายไว้ในแผนพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติว่า จะสงวนป่าไม้ไว้เป็นเนื้อที่ประมาณร้อยละ 50 แห่งเนื้อที่ประเทศไทย คือ เป็นเนื้อที่ป่าสงวนรวมประมาณ 250,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 156 ล้านไร่ บัดนี้ ปรากฏว่าป่าไม้ที่สงวน คุ้มครองไว้แล้ว และที่ยังมิได้สงวนคุ้มครองได้ถูกบุกรุกและถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก แม้ป่าไม้ในบริเวณต้นน้ำลำธาร ก็ถูกแผ้วถางเผาทำลายไปเป็นอันมาก ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความแห้งแล้ง พื้นดินพังทลาย ลำน้ำตื้นเขิน หรือเกิดอุทกภัยอันเป็นผลเสียหายแก่การเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง  ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายว่า ด้วยการคุ้มครองและสงวนป่าที่ใช้บังคับอยู่ มีวิธีการไม่รัดกุมเหมาะสมต้องเสียเวลาดำเนินการเป็นเวลานาน จึงจะประกาศกำหนดเป็นป่าสงวนหรือเป็นป่าคุ้มครองได้ เป็นเหตุให้บุคคลบางจำพวกฉวยโอกาสทำลายป่า ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนั้นได้กำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนไว้ไม่เหมาะสมกับกาลสมัย ผู้กระทำผิดไม่เข็ดหลาบเป็นช่องทางให้มีการบุกรุกทำลายป่ามากขึ้น รัฐบาลจึงเห็นเป็นการจำเป็นอันรีบด่วนที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมายเรื่องนี้ เสียใหม่ เพื่อให้สามารถดำเนินการคุ้มครองป้องกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของชาติ และเพื่อมิให้อาชีพเกษตรกรรมของประชาชนส่วนใหญ่และเศรษฐกิจของประเทศถูกกระทบกระเทือนจากผลของการทำลายป่า


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522
  • พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528
  • พระราชกฤษฎีกาโอนกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2546
  • พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504

⇧ กฏหมายทางทะเล

พะราชบัญญัติฉบับนี้ มีขึ้น เพื่อคุ้มครองรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ เช่น พันธุ์ไม้และของป่า สัตว์ป่า ตลอดจนทิวทัศน์ ป่าและภูเขา ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิม มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่ออำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่รัฐและประชาชนสืบไป


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2532
  • พระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติ พ.ศ.2545

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

⇧ กฏหมายทางทะเล

โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ให้เหมาะสมแก่กาลสมัยยิ่งขึ้น จึงมีพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร โดยพระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า “พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484”


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2491
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503
  • ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 116 ลง 10 เม.ย. พ.ศ. 2515
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525
  • พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ฉบับ พ.ศ. 2532
  • ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557
  • คําสั่งหัวหนาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 31/2559

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.ก.การประมง 2558

⇧ กฏหมายทางทะเล

โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการประมง พระมหากษัตริย์โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา จึงให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยเรียกว่า “พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490”


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496
  • พระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2513
  • ประกาศของคณะปฏิวัติเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2515
  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2528
  • ต่อมาได้ยกเลิก พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2490 และได้ใช้พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2558
  • ต่อมาได้ยกเลิก พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2558 และได้ใช้ พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ขึ้นแทน

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมง ในเขตการประมงไทย 2482

⇧ กฏหมายทางทะเล

สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึ่งมีพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมง ในเขตการประมงไทย พ.ศ. 2482 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

พ.ร.ก.ป้องกันการใช้สารระเหย 2533

⇧ กฏหมายทางทะเล

โดยที่ได้มีการนำสารระเหย หรือวัตถุหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีสารระเหยผสมหรือเจือปนอยู่ ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อใช้ในทางอุตสาหกรรมหรือทางอื่น ไปใช้สูด ดม หรือวิธีอื่นใด อันก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากแก่ผู้สูด ดม โดยเฉพาะเยาวชนประกอบกับยังไม่มีกฎหมายใช้บังคับแก่สารระเหยโดยเฉพาะ สมควรที่จะดำเนินการป้องกันการใช้สารระเหยไปในทางที่ไม่ถูกต้อง และโดยที่เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนในอันที่จะรักษาความปลอดภัยสาธารณะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้


ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมออกมาตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542
  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543
  • พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.krisdika.go.th
  • http://law.longdo.com

Copyright © 2025 Seafarer

Theme by Anders NorenUp ↑