Category: Uncategorized

พระยาชลยุทธโยธินทร์

⇑ รายนามผู้บัญชาการทหารเรือ

⇑ บุคคลสำคัญ

พลเรือโท พระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plessis de Richelieu) หรือกัปตันริเชลิว พ.ศ. 2395-2476 เป็นชาวเดนมาร์ก เชื้อสายฝรั่งเศส สืบเชื้อสายมาจาก พระคาร์ดินัล Armand Jean du Plessis de Richelieu อัครเสนาบดีและที่ปรึกษาผู้ทรงอำนาจของพระเจ้าหลุยส์ที่13 แห่งฝรั่งเศส สมรสกับนางสาวดัคมาร์ เลิช (Dagmar Lousie Lerche) ธิดานายเอฟ. เลิช ผู้พิพากษาชาวเดนมาร์ก มีบุตรธิดา 3 คน พระยาชลยุทธฯ จบวิชาการทหารเรือแล้วรับราชการในกองทัพเดนมาร์กอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อรับราชการตามแรงบันดาลใจในวัยเด็กหนุ่มที่ชื่นชมในความเป็นเอกราชของประเทศสยามท่ามกลางดินแดนอาณานิคม และต้องการหนีความไม่แน่นอนของประเทศเดนมาร์กในสงครามยุโรป โดยมีพระราชหัตถเลขาของพระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งกรุงเดนมาร์กมาถวายรัชกาลที่5 เพื่อทูลฝากฝังว่า เป็นนายเรือตรีในกองทัพเดนมาร์ก และผ่านการเป็นกัปตันเรือมาแล้ว

เริ่มเข้ารับราชการในกองทัพเรือไทยเมื่อ เม.ย. 2418 ในตำแหน่ง กัปตันเรือพิทยัมรณยุทธ รักษาความสงบในภาคใต้ด้านทะเลอันดามัน ในพื้นที่เกาะภูเก็ต มีผลงานในการปราบอั้งยี่หลายครั้ง จนได้รับการเลื่นยศและตำแหน่งตามลำดับ พระยาชลยุทธฯ เป็นผู้ออกแบบและคุมก่อสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้าในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 โดยใช้ป้อมปืนแบบทันสมัยล่าสุดจากประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อว่า “ปืนเสือหมอบ” เป็นผู้นำทหารเรือชาวเดนมาร์ก เข้าต่อสู้กับกองเรือฝรั่งเศสที่ปากน้ำ ทั้งที่กงสุลเดนมาร์กมีคำสั่งไม่ให้ชาวเดนมาร์กเข้ายุ่งเกี่ยวในการศึกครั้งนี้ ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ระหว่าง 16 ม.ค. 2443 – 29 ม.ค. 2444 (ผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 9) นับเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนแรกและคนเดียวที่เป็นชาวต่างประเทศ พระยาชลยุทธฯได้ขอพระราชทานพระราชวังเดิมให้เป็นที่ตั้งโรงเรียนนายเรือ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯได้พระราชทานตามที่ขอ


เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป พระยาชลยุทธโยธินทร์ ได้รับหน้าที่กัปตันเรือพระที่นั่งทุกครั้ง เรื่มตั้งแต่เรือพระที่นั่งเวสาตรี เรือพระที่นั่งอุบลบุรทิศ และเรือพระที่นั่งมหาจักรี พระยาชลยุทธฯ ได้ร่วมหุ้นกันกับพระนิเทศชลธี (Alfred John Loftus) ดำเนินกิจการรถรางใช้ม้าลาก ซึ่งทำให้ไทยมีรถรางใช้เป็นครั้งแรก และยังได้ร่วมกันขอสัมปทานทางรถไฟสายกรุงเทพ – สมุทรปราการ ซึ่งเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย และเป็นรถรางสายแรกในเอเชีย พระยาชลยุทธ ฯ มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งคือ การคำนวณสารัมภ์ศาสตร์ ได้เคยคำนวณการเกิดสุริยุปราคา เมื่อ พ.ศ. 2437 และได้รับพระราชทานรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย

ภายหลังที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการเมื่อ 29 ม.ค. 2444 กลับไปรักษาตัว ณ ประเทศเดนมาร์ก แล้วได้รับตำแหน่งเป็นกรรมการและประธานกรรมการในบริษัทพาณิชย์ เป็นสมาชิกรัฐสภาเดนมาร์ก 2 สมัย และยังช่วยในการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเพื่อขอเมืองจันทบุรีกลับคืนด้วย


แหล่งอ้างอิง

  • https://www.facebook.com/KODETAHARN/
  • https://th.wikipedia.org/

22 จังหวัดชายทะเล

⇑ เกร็ดความรู้ชาวเรือ

ประเทศไทยมีจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล จำนวน 22 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดทางฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัด และฝั่งอ่าวไทย 16 จังหวัด จังหวัดที่มีชายฝั่งทะเลยาวที่สุด คือ จังหวัดชุมพร มีชายฝั่งทะเลยาวถึง 248.33 กิโลเมตร ส่วนจังหวัดที่มีชายฝั่งทะเลสั้นที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร มีชายฝั่งทะเลยาวเพียง 7.11 กิโลเมตร อยู่ในเขตบางขุนเทียน

สำหรับจังหวัดพัทลุง บางแหล่งข้อมูลนับเป็นจังหวัดที่ติดทะเลด้วย โดยมีพื้นที่ชายฝั่งอยู่ภายในทะเลสาปสงขลา ทั้งหมด ซึ่งมีความยาว 353.36 กิโลเมตร ทำให้นับรวมได้เป็นจัวหวัดที่ 23


จังหวัดชายฝั่งยาว (กม.)จำนวนเกาะ
ตราด178.1966
จันทบุรี104.0419
ระยอง105.6116
ชลบุรี170.1647
ฉะเชิงเทรา16.561
สมุทรปราการ57.390
กรุงเทพมหานคร7.110
สมุทรสาคร42.040
สมุทรสงคราม24.230
เพชรบุรี89.720
ประจวบคีรีขันธ์246.8323
ชุมพร248.3354
สุราษฎร์ธานี157.17108
นครศรีธรรมราช236.829
สงขลา158.536
ปัตตานี140.034
นราธิวาส57.023
ระนอง172.5156
พังงา235.78155
ภูเก็ต202.8337
กระบี่203.79154
ตรัง135.0354
สตูล161.38106

แหล่งอ้างอิง

  • http://www.mkh.in.th
  • https://www.jangwat.com

เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต

⇑ รายนามผู้บัญชาการทหารเรือ

⇑ บุคคลสำคัญ

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประสูติเมื่อวันพุธที่ 29 มิ.ย. 2424 ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 33 ของรัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรีพระอัครราชเทวี ทรงศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ทรงสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเสนาธิการ ประเทศเยอรมนี เมื่อเสด็จกลับมารับราชการ ทรงเข้ารับราชการในกองทัพเรือ ตั้งแต่ 24 ก.พ. 2446 ถึง 18 มิ.ย. 2463 ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารเรือ (ผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 11) และ เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เป็นเวลาประมาณ 17 ปี

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงบุกเบิกและวางรากฐานความเจริญด้านต่าง ๆ ให้แก่ กองทัพเรือ เป็นคุณูปการ ที่สำคัญ ๆ อาทิ
– จัดระเบียบราชการในกองทัพเรือให้รัดกุม
– จัดทำข้อบังคับทหารเรือว่าด้วยหน้าที่ราชการในเรือหลวง
– วางรากฐานการจัดระเบียบการเรียนการสอนในโรงเรียนนายเรือใหม่
– ขยายและปรับปรุงอู่หลวง
– วางรากฐานกองดุริยางค์ทหารเรือ
– ทรงจัดทำโครงสร้างกำลังทางเรือ
– เสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพเรือ โดยทรงสั่งซื้อเรือรบจากต่างประเทศเข้าประจำในกองทัพเรือ เป็นจำนวนมาก อาทิ เรือพระที่นั่งมหาจักรี (ลำที่ 2) เรือเสือทะยานชล เรือเสือคำรณสินธุ์
– สนับสนุนการก่อตั้งราชนาวิกสภา
– กำหนดรูปแบบริ้วกระบวนเรือพระราชพิธี ปรับปรุงการเห่เรือและการสร้างเรือพระราชพิธีขึ้นใหม่
– กำหนดระยะเวลาและวิธีรับคนเข้ารับราชการในกรมทหารเรือ
– วางแบบแผน การยิงสลุต
– กำหนดเครื่องแต่งกายทหารเรือ
– จัดให้มีพระธรรมนูญศาลทหารและกรมพระธรรมนูญทหารเรือ
– ปรับปรุงการสหโภชน์ และก่อตั้งโรงเรียนสูทกรรม
– ตั้งคลังแสงทหารเรือ
– ปรับปรุงการแพทย์ทหารเรือ
– ทำการสำรวจและจัดทำแผนที่น่านน้ำสยามขึ้นใหม่ โดยกองแผนที่ทะเลซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น กรมอุทกศาสตร์


ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ถูกควบคุมองค์ไว้เป็นองค์ประกัน เนื่องด้วยทรงเป็นผู้รักษาพระนคร อีกทั้งยังทรงควบคุมหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งทหาร และตำรวจ ต่อมาได้เสด็จย้ายไปประทับอยู่ที่เมืองบันดุง เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคไตและพระหทัย เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2487 ที่ตำหนักประเสบัน เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย ขณะพระชันษา 63 ปี

กองทัพเรือได้กำหนดให้วันที่ 29 มิ.ย. ของทุกปีเป็น “วันบริพัตร” และกำหนดจัดงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ณ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม


แหล่งอ้างอิง

  • https://www.facebook.com/RoyalThaiNavyFanpage/
  • https://th.wikipedia.org/

พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์

⇑ รายนามผู้บัญชาการทหารเรือ

⇑ ทำเนียบนักเรียนนายเรือ พ.ศ. 2520

พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญาการทหารเรือ ลำดับที่ 53 เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2503 เป็นบุตรของ นายบุญช่วย กับ นางบุญล้อม รุดดิษฐ์ สมรสกับ นาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยพี่ชาย พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ เป็นองคมนตรี พลเรือเอก ลือชัย มีความมุ่งมั่นที่จะเข้ารับราชการเป็น นายทหารเรือมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก เนื่องด้วยเป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ จึงได้มีโอกาสใกล้ชิดและสัมผัสกับทหารเรือ ซึ่งมี ที่ตั้งหน่วยอยู่ในพื้นที่ จนเมื่อเติบโตขึ้นก็ได้เพียรพยายามด้วยความมุมานะและทุ่มเท จนในที่สุดสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 18 เป็นผลสำเร็จ

ขณะเป็นนักเรียนนายเรือ ได้เป็นนักกรีฑาในประเภทวิ่งระยะไกลและวิ่งมาราธอน สร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติให้แก่โรงเรียนนายเรือและกองทัพเรือหลายครั้ง ทำลายสถิติกีฬาราชนาวี ชนะเลิศกีฬากองทัพเรือ และชนะเลิศการแข่งขันวิ่งมาราธอนกีฬาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย อกจากนี้ ท่านยังได้รับรางวัล เกียรติยศจักรดาว ในปี 2562

การศึกษา
– โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 18
– โรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ 75
– หลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ รุ่นที่ 53
– วิทยาลัยการทัพเรือที่ 35
– วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 55

การรับราชการที่สำคัญ
– ผู้บังคับการ เรือหลวงท่าดินแดง (ลำที่ 1)
– ผู้บังคับการ เรือหลวงบางระจัน
– ผู้บังคับการ เรือหลวงเจ้าพระยา
– ผู้บังคับการ เรือหลวงนเรศวร
– ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ
– ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
– ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
– เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ
– ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ
– เสนาธิการทหารเรือ
– รองผู้บัญชาการทหารเรือ



แหล่งอ้างอิง

  • https://th.wikipedia.org
  • https://aaf.rtarf.mi.th

พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน

⇑ รายนามผู้บัญชาการทหารเรือ

⇑ ทำเนียบนักเรียนนายเรือ พ.ศ. 2522

พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือลำดับที่ 54 เกิดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2504 เป็นบุตรของ นายสมภาพ กับ นางเวียงงาม ศรีวรขาน โดย บิดา เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ระหว่างปี 2521-2522 มีพี่ชายคือ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระหว่าง ปี 2557 – 2562

การศึกษา
– โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 97
– โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20
– โรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ 77
– โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ รุ่นที่ 54
– วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 39
– วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 59
– หลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 6

การรับราชการที่สำคัญ
– ผู้บังคับการเรือ ต.14
– ผู้บังคับการเรือหลวงท้ายเหมือง
– ฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการทหารเรือ
– ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน
– ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ
– ปลัดบัญชีทหารเรือ
– รองเสนาธิการทหารเรือ
– เสนาธิการทหารเรือ
– ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ



แหล่งอ้างอิง

  • https://th.wikipedia.org
  • http://www.dsdw2016.dsdw.go.th
  • https://www.prachachat.net/

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย

⇑ รายนามผู้บัญชาการทหารเรือ

⇑ ทำเนียบนักเรียนนายเรือ พ.ศ. 2522

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 55 เกิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2505 เป็นบุตรของ นายประหยัด และ นางสาลี่ นิลสมัย สมรสกับ คุณศิริรัตน์ นิลสมัย

การศึกษา
– โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20
– โรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ 77
– หลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ รุ่นที่ 54
– วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 37
– วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 60

การรับราชการที่สำคัญ
– ผู้บังคับการเรือหลวงตองปลิว กองเรือปราบเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ
– ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทยประจำกรุงโรม
– ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการทหารเรือ
– เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ
– ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ
– เจ้ากรมข่าวทหารเรือ
– รองเสนาธิการทหารเรือ
– รองปลัดกระทรวงกลาโหม



แหล่งอ้างอิง

  • https://www.navy.mi.th

อากาศยานไร้คนขับ ทางทะเล (UAVs)

⇧ เทคโนโลยีทางเรือ

อากาศยานไร้คนขับ หรือยูเอวี (Unmanned Aerial Vehicles: UAVs) เป็นอากาศยานที่ไม่มีนักบินประจำการอยู่บนเครื่อง อากาศยานที่ไร้คนขับแต่สามารถควบคุมได้ อากาศยานไร้คนขับมีรูปร่าง ขนาด รูปแบบ และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตามหลักแล้วอากาศยานไร้คนขับ คือ โดรน (Drone) นั่นเอง สามารถควบคุมจากระยะไกล ใช้การควบคุมอัตโนมัติซึ่งมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ การควบคุมอัตโนมัติจากระยะไกล และการควบคุมแบบอัตโนมัติโดยใช้ระบบการบินด้วยตนเองซึ่งต้องอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์

อากาศยานไร้คนขับ เกิดจากแนวคิดของ Nikola Tesla ซึ่งเป็นวิศวกรเครื่องกลและไฟฟ้าเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดเกี่ยวกับกองบินอากาศยานไร้คนขับขึ้นในปี พ.ศ. 2458 และในปี พ.ศ. 2459 ได้มีการสร้างอากาศยานไร้คนขับรุ่นแรก ซึ่งเป็นเป้าฝึกทางอากาศ (Aerial Target) โดย Archibald Montgomery Low (A.M. Low) ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์และเป็นนักวิศวกรรมที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องบิน จากนั้นอากาศยานไร้คนขับก็มีการพัฒนากันอย่างแพร่หลายมากขึ้นรวมทั้งก่อให้เกิดเครื่องบินอัตโนมัติฮีวิตต์-สเปอร์รี (Hewitt-Sperry Automatic Airplane) ขึ้นมาอีกด้วย

ยุคแรกๆ อากาศยานไร้คนขับถูกสร้างขึ้นมา เพื่อภารกิจการลาดตระเวนหาข่าว และ เนื่องจากอากาศยานไร้คนขับมีจุดเด่นในเรื่องการปราศจากความเสี่ยงในการสูญเสียนักบิน ประหยัดงบประมาณ ในการผลิต เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อนมากนัก มีขนาดเล็ก ทำการตรวจจับได้ยาก มีความคล่องตัวสูง ระยะเวลาบิน ไม่ขึ้นอยู่กับความเมื่อยล้าของนักบิน เพราะใช้นักบินภายนอก (External Pilot) ดังนั้นอากาศยานไร้คนขับจึงได้ถูกพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น และใช้ในภารกิจหลากหลายมากขึ้น เช่น การค้นหาเป้าหมาย (Target Acquisition) เพื่อชี้เป้า และในปี พ.ศ. 2507 ได้มีอากาศยานไร้คนขับของกระทรวงกลาโหมประเทศต่าง ๆ เกิดขึ้นถึง 11 แบบ เช่น Hunter Pioneer Predator ของกองทัพสหรัฐ Phoenix ของประเทศอังกฤษ Searcher ของประเทศอิสราเอล เป็นต้น จนกระทั่งปี พ.ศ. 2533 อากาศยานไร้คนขับจึงกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับสงครามในปัจจุบันและอนาคต เป็นเครื่องมือเฝ้าตรวจจากระยะไกลที่สามารถส่งภาพกลับให้ผู้บังคับบัญชาเห็นได้ในเวลาจริงหรือใกล้เวลาจริง


ในปัจจุบัน ผลิต UAV เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานหลากหลาย ทั้งการใช้งานเพื่อเกมกีฬา เพื่อความเพลิดเพลิน หรือเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการถ่ายภาพ เป็นต้น ดังนี้

  • ใช้บันทึกภาพมุมสูง โดยการนำกล้องมาติดที่ตัวโดรนเพื่อถ่ายรูปจากมุมมองแปลกๆ ใหม่ๆ และในมุมที่เราไม่สามารถถ่ายได้ด้วยตัวเอง
  • ใช้บันทึกภาพการถ่ายทอดสดต่างๆ มีลักษณะการใช้งานคล้ายการติดกล้องเพื่อถ่ายรูป แต่เปลี่ยนมาเป็นกล้องวีดิโอเพื่อบันทึกภาพเคลื่อนไหวจากมุมต่างๆ แทน การใช้โดรนในลักษณะนี้ส่วนมากเราพบได้ในการถ่ายทอดกีฬาหรือคอนเสิร์ต เป็นต้น
  • ใช้เป็นพาหนะในการขนส่งสินค้า โดยมีบริษัทใหญ่เริ่มนำร่องการใช้งานโดรนเพื่อโลจิสติกส์คือ Google และ Amazon
  • ใช้เพื่อฉีดพ่นปุ๋ยและสารเคมีต่างๆ ในด้านการเกษตร เป็นการลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารเคมีโดยตรงของมนุษย์
  • ใช้ติดกล้องเพื่อการสำรวจ สภาพการจราจรและลักษณะภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศต่างๆ
  • ใช้ด้านความปลอดภัยและความมั่นคง โดยในระยะหลังโดรนสามารถใช้ร่วมกับการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น ดินถล่ม หรือภัยธรรมชาติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อากาศยานไร้คนขับที่ใช้ทางทะเล ประเภทต่าง ๆ แบ่งได้ดังนี้

  • อากาศยานไร้คนขับแบบเพดานบินปานกลาง (Medium-altitude, long Endurance Unmanned Aerial Vehicles (MALE UAV) สามารถบินลาดตระเวนได้ไกล มีเพดานบินสูงประมาณ 18,000 – 60,000 ฟุต บินได้นาน 10 – 48 ชม. บรรทุกได้ระหว่าง 1,000 – 30,000 ปอนด์ ตัวอย่างเช่น ยาน Hermes 900 MALE UAV ผลิตโดยบริษัท Elbit Systems ของอิสราเอล
  • อากาศยานไร้คนขับแบบเพดานบินสูง (High-altitude, long Endurance Unmanned Aerial Vehicles (HALE UAV) สามารถที่จะบินลาดตระเวนได้ไกล พดานบินสูงมากกว่า 60,000 ฟุต บินได้นาน 10 – 48 ชม. บรรทุก Payload ได้ระหว่าง 1,000 – 30,000 ปอนด์ ตัวอย่างเช่น ยาน MQ-4C Triton HALE UAV พัฒนาโดยบริษัท Northrop Grumman
  • อากาศยานไร้คนขับที่ปฏิบัติการบนเรือ (Shipboard UAS) เป็นอากาศยานไร้คนขับที่มีขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถบินขึ้นและลงจอดบนเรือได้ มีทั้งแบบปีกหมุนและปีกนิ่ง แต่อากาศยานแบบปีกหมุนจะเป็นที่นิยมใช้มากกว่า เนื่องจากไม่ต้องใช้พื้นที่ในการบินขึ้นเหมือนกับอากาศยานแบบปีกนิ่ง อีกทั้งไม่ต้องใช้ร่มในการลงจอด ท าให้สามารถบินขึ้นและลงจอดทางดิ่งบนเรือได้สะดวก ตัวอย่างเช่น ยาน V-200 Block 20 UAS ปัจจุบันเข้าประจำการในกองทัพเรือของแคนาดาและเยอรมนี เป็นอากาศยานไร้คนขับแบบปีกหมุน

แหล่งอ้างอิง

  • https://www.oncb.go.t
  • http://dspace.dti.or.th

ยานใต้น้ำไร้คนขับ (UUVs)

⇧ เทคโนโลยีทางเรือ

ยานไกรทอง (UUV ของไทย)

ยานไร้คนขับ (Unmanned Vehicles) มีปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ (Ancient Greek) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชื่อ Archytas ได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์นกพิราบ (Mechanical Pigeon) ซึ่งสามารถบินได้สูง 200 เมตร ทำให้มีผู้กล่าวว่าการประดิษฐ์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการสร้างอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles : UAVs) ต่อมายานไร้คนขับได้ถูกนำมาใช้ในช่วงของสงครามโลก โดยเฉพาะในช่วงของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ที่มีการประดิษฐ์ชิ้นส่วนเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดเป็นเครื่องมือต่างๆ นำมาใช้ในการทำสงคราม โดยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นยานไร้คนขับนั้นในช่วงแรกจะมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น บอลลูนสอดแนมไร้คนขับ (Unmanned surveillance balloons) ตอร์ปิโดที่ใช้โดยการควบคุมระยะไกล(Remotely controlled torpedoes) ว่าวที่สามารถถ่ายภาพทางอากาศได้ (Aerial kites) ผ่านการควบคุมระยะไกลโดยเชือก ซึ่งว่าวดังกล่าวจมีหน้าที่ในการถ่ายภาพตำแหน่งและป้อมปราการของฝ่ายศัตรู


ยานไร้คนขับสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles : UAVs) คือ ยานทีปฏิบัติการในอากาศ
  2. ยานภาคพื้นไร้คนขับ (Unmanned Ground Vehicles : UGVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการบนพื้นดิน
  3. ยานไร้คนขับทางน้ำ (Unmanned Marine Vehicles : UMVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการในน้ำ โดยยานไร้คนขับทางน้ำสามารถแยกออกมาได้อีกสองรูปแบบได้แก่
    • ยานผิวน้ำไร้คนขับ (Unmanned Surface Vehicles : USVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการบนผิวน้ำ
    • ยานใต้น้ำไร้คนขับ (Unmanned Underwater Vehicles : UUVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการใต้น้ำ


ในที่นี้จะเน้นในส่วนของยานใต้น้ำไร้คนขับ (UUVs) เป็นสำคัญ โดยยานใต้น้ำไร้คนขับ (Unmanned Underwater Vehicles: UUVs) หมายถึง ยานที่ปฏิบัติการใต้น้้ำได้โดยปราศจากคนขับเคลื่อนบนยาน มีทั้งการควบคุมระบบระยะไกล ระบบกึ่งอัตโนมัติ และระบบอัตโนมัติ UUVs หน้าที่ของยานใต้น้ำไร้คนขับ

  • ด้านการทหาร เช่น การต่อต้านทุ่นระเบิด (Mine Countermeasures- MCM) และสงครามต่อต้านเรือดำน้ า (Anti-Submarine Warfare- ASW)
  • ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การศึกษาทะเลสาบ มหาสมุทร รวมถึงพื้นมหาสมุทรและการสำรวจความลึกของน้้ำ
  • ด้านการพาณิชย์ เช่น การทำแผนที่ใต้ทะเลเพื่อประโยชน์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างหลากหลาย ทั้งการตรวจจับการรั่วไหลของน้้ำมัน การสำรวจใต้น้้ำด้วยคลื่นเสียง การตรวจวัดความลึกของทะเล การตรวจหาชั้นตะกอน การตรวจวัดระบบท่อส่งน้้ำมันใต้ทะเล และการดูแลบำรุงรักษาระบบท่อส่งก๊าซและน้้ำมันใต้ทะเล
  • ด้านการค้นหาซากวัตถุต่างๆ เช่น การค้นหาซากเครื่องบินตกหรือซากเรือที่ล่มอยู่ใต้ทะเลและ การค้นหาซากวัตถุโบราณ


ตัวอย่างของยานใต้น้้ำไร้คนขับ เช่น Bluefin-21 กับการปฏิบัติการตามหาซากเครื่องบินโบอิงของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 หรือ ROV Ventana ซึ่งถูกใช้ในการส ารวจใต้ท้องทะเลลึก

ตัวอย่างของ ยานใต้น้ำไร้คนขับในประเทศไทย ได้แก่ ยานใต้น้ำสำหรับฝึกปราบเรือดำน้ำของกองทัพเรือ จำนวน 3 ลำ ได้แก่ ไกรทอง วิชุดา และ สุดสาคร สร้างโดยความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทรอัมพ์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ยานลำนี้ใช้ฝึกพนักงานโซนาร์ในการตรวจจับหาเรือดำน้ำ โดยคุณสมบัติ ประกอบด้วย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ สั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ดำได้ลึก 50 ม. ความเร็วผิวน้ำ 2 น็อต ใต้น้ำ 3-4 น็อต ปฏิบัติการใต้น้ำนานกว่า 4 ชั่วโมง มีระบบทำเสียงใต้น้ำ Transducer และระบบขยายเสียง หาตำแหน่งด้วยระยยดาวเทียม (GPS) สามารถส่งสัญญาณวิทยุบอกตำแหน่งไปยังเรือใหญ่เมื่อจบภารกิจได้


แหล่งอ้างอิง

  • บทความของ วัชราภรณ์ สิทธิพงศ์
  • https://kukr2.lib.ku.ac.th
  • http://www.dockyard.navy.mi.th
  • http://www.rtni.org

ยานผิวน้ำไร้คนขับ (USVs)

⇧ เทคโนโลยีทางเรือ

ยานไร้คนขับ (Unmanned Vehicles) มีปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ (Ancient Greek) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชื่อ Archytas ได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์นกพิราบ Mechanical Pigeon) ซึ่งสามารถบินได้สูง 200 เมตร ทำให้มีผู้กล่าวว่าการประดิษฐ์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการสร้างอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles : UAVs) ต่อมายานไร้คนขับได้ถูกนำมาใช้ในช่วงของสงครามโลก โดยเฉพาะในช่วงของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ที่มีการประดิษฐ์ชิ้นส่วนเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดเป็นเครื่องมือต่างๆ นำมาใช้ในการทำสงคราม โดยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นยานไร้คนขับนั้นในช่วงแรกจะมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น บอลลูนสอดแนมไร้คนขับ (Unmanned surveillance balloons) ตอร์ปิโดที่ใช้โดยการควบคุมระยะไกล(Remotely controlled torpedoes) ว่าวที่สามารถถ่ายภาพทางอากาศได้ (Aerial kites) ผ่านการควบคุมระยะไกลโดยเชือก ซึ่งว่าวดังกล่าวจมีหน้าที่ในการถ่ายภาพตำแหน่งและป้อมปราการของฝ่ายศัตรู


ยานไร้คนขับสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles : UAVs) คือ ยานทีปฏิบัติการในอากาศ
  2. ยานภาคพื้นไร้คนขับ (Unmanned Ground Vehicles : UGVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการบนพื้นดิน
  3. ยานไร้คนขับทางน้ำ (Unmanned Marine Vehicles : UMVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการในน้ำ โดยยานไร้คนขับทางน้ำสามารถแยกออกมาได้อีกสองรูปแบบได้แก่
    • ยานผิวน้ำไร้คนขับ (Unmanned Surface Vehicles : USVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการบนผิวน้ำ
    • ยานใต้น้ำไร้คนขับ (Unmanned Underwater Vehicles : UUVs) คือ ยานที่ปฏิบัติการใต้น้ำ


ในที่นี้จะเน้นในส่วนของยานผิวน้ำไร้คนขับ (USVs) เป็นสำคัญ โดยยานผิวน้ำไร้คนขับ (Unmanned Surface Vehicles) หมายถึง ยานที่สามารถปฏิบัติการบนผิวน้ำได้โดยปราศจากคนขับเคลื่อนบนยาน สามารถทำงานด้วยระบบควบคุมระยะไกล ระบบกึ่งอัตโนมัติและระบบอัตโนมัติ ยานผิวน้ำไร้คนขับยังสามารถแยกออกมาได้อีกหลายลักษณะ เช่น ยานกึ่งดำน้ า (Semi-Submersible Craft) โดยตัวเรือเกือบทั้งหมดจะอยู่ใต้ผิวน้ำ ทำให้ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมน้อย จึงสามารถปฏิบัติงานได้ในเกือบทุกสภาพลมฟ้าอากาศ หรือยานท้องแบน กึ่งท้องแบน ไฮโดรฟอยล์ และแบบอื่นๆ หน้าที่ของยานผิวน้ำไร้คนขับ

  • ด้านการทหาร เช่น การรักษาความปลอดภัยทางทะเล (Maritime Security – MS) การรบผิวน้ำ (Surface Warfare – SUW)
  • ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อมบริเวณน้ำตื้นสำหรับงานด้านอุทกศาสตร์ (Hydrography) การเก็บข้อมูลด้านสมุทรศาสตร์ (Oceanography)
  • ด้านการพาณิชย์ เช่น การสำรวจหาน้้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (Oil and Gas Exploration)


ตัวอย่างของยานผิวน้้ำไร้คนขับ เช่น ยาน C Enduro เป็นยานที่ปฏิบัติงานได้หลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลทางสมุทรศาสตร์ การเฝ้าสังเกตการณ์สภาพแวดล้อม ทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการปฏิบัติงานและมีความปลอดภัย ยาน C-Worker 6 สามารถค้นหาและติดตามตรวจสอบทางสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ต้องอาศัยเรือเป็นฐานสถานี (environmental monitoring without the need of a ship on station) Seaswarm เป็นยานที่สามารถดูดซับ (absorb) น้ำมันที่รั่วไหลลงในทะเลได้ และ RO-BOAT River Cleaning Robot มีความสามารถในการเก็บขยะจากทะเลหรือแม่น้ าลำคลอง

ในทางการทหารของไทย ได้มีการดำเนินการพัฒนายานผิวน้้ำไร้คนขับ เช่น Marsun ได้เปิดตัวแผนพัฒนา SUV-10 ยานสำหรับการตรวจการณ์ในพื้นที่อันตราย โดยตัวเรือ มีความยาว 10 ม. กว้าง 3.2 ม. กินน้ำลึก 0.5 ม. ความจุเชื้อเพลิง 1,000 ลิตร ทำความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 45 น๊อต ระยะปฏิบัติการมากกว่า 300 ไมล์ อาวุธปืน .50 นิ้ว ประกอบอยู่บนระบบกันโคลง ระบบตรวจจับด้วยภาพ อินฟราเรด และเรดาห์ ตัวเรือสร้างวัสดุผสม (Composite Meterials) รวมถึงติดตั้งเครื่องยนต์เรือเร็ว Speed Boat สองเครื่อง ซึ่งการออกแบบสร้างจะพยายามใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ในตลาด(Off the Shelf) เพื่อลดราคาไม่ให้สูงเท่าระบบ USV ของต่างประเทศ


แหล่งอ้างอิง

  • บทความของ วัชราภรณ์ สิทธิพงศ์
  • https://www.asianmilitaryreview.com
  • http://marsun.th.com

การผิวปากเรียกลม

ขนบธรรมเนียม ประเพณี ทหารเรือ

การแล่นเรือในยุคเรือใบ เมื่อลมเงียบพวกชาว Viking จะผิวปากออกมาดังๆ เพราะเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งพายุจะผิวปากตอบเช่นกัน และเป็นการเรียกลม ทำให้เรือแล่นต่อไปได้ จากความเชื่อดังกล่าว ในทางตรงกันข้าม เวลาต่อมาการผิวปากบนเรือในขณะมีลมแรงหรือพายุ จึงถือว่า เป็นข้อห้ามเนื่องจากอาจทำให้เรือได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของลมพายุมากขึ้น และในปัจจุบันนี้ ในเรือรบก็ยังหัามผิวปากโดยเด็ดขาด เพราะเสียงผิวปากมีความคล้ายคลึงและลักษณะเดียวกับเสียงของนกหวีดเรือ ที่ใช้ในการสั่งการ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้



แหล่งอ้างอิง

  • หนังสือขนบธรรมเนียม ประเพณีทหารเรือ

Copyright © 2025 Seafarer Library

Theme by Anders NorenUp ↑